http://www.guardian.co.uk/politics/2010/may/12/lib-dem-tory-deal-coalition

เผื่อใครอยากจะอ่าน พี่คิดว่าไม่ออกแต่รู้ไว้ก็ดีนะคะ :)
Just Type in Bas Tutors and BAMM!! :D


The 2011 State of the Union Address was a speech given by President Barack Obama at 9 p.m. EST on January 25, 2011, in the chamber of the United States House of Representatives.[1] As always, the presiding officers of the Senate and the House of Representatives, Vice President Joe Biden (as Senate President) and House Speaker John Boehner sat behind the president. This is the first time a Republican has sat behind President Obama during a joint session of Congress. In this joint session Obama outlined his “vision for an America that’s more determined, more competitive, better positioned for the future — an America where we out-innovate, we out-educate, we out-build the rest of the world; where we take responsibility for our deficits; where we reform our government to meet the demands of a new age.”

Source: Wikipedia

State of Union Address เป็นการกล่าว...ปราศัย? ประจำปีของประธานาธิบดีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปีนี้โอบาม่าก็ได้มีการพูดเกี่ยวกับ "Winning the Future" โดยเป็นการพูดถึงนโยบายต่างๆที่เค้าสนับสนุนตั้งแต่เรื่องการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ และการศึกษา (Education and Innovation) เค้าได้มีการพูดถึงเรื่อง Illegal Immigrants และก็แสดงความเห็นใจแก่ลูกหลานของผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับสูงได้เนื่องมาจากสถานะของพ่อ-แม่ ทั้งยังสนับสนุนให้คนต่างชาติที่เข้ามาเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีโอกาสทำงานให้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกกฎหมาย เค้ายังพูดถึงการยกระดับสถานะของครูในอเมริกา และสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นครูมากขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาประเทศ ทั้งนี้เค้าเน้นไปในด้านวิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ โอบาม่ายังให้ความหวังแก่เด็กอเมริกันด้วยว่าจะลดค่าเล่าเรียนให้เหลือไม่เกิน $10,000 ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งสี่ปี และเมื่อนักศึกษาเรียนจบมหาวิทยาลัยและมีงานทำแล้วก็จะให้จ่ายเงินคืนรัฐไม่เกิน 10% ของเงินเดือนต่อเดือนเพื่อไม่ให้กระทบถึงความเป็นอยู่ของคนอเมริกัน เค้ายังให้เหตุผลว่าเนื่องมาจากอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแรกที่เกิดนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆขึ้นได้เกิดการหยุดชะงัก ในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆทำให้ประเทศที่เพิ่งจะกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างเกาหลีใต้แซงหน้าไปหลายกิโลแล้วอีกด้วย โอบามายังให้ความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยสร้างเป้าหมายใหม่ให้กับประเทศสหรัฐอเมริกาในด้านการใช้พลังงานสะอาด (Clean Energy Technology) และ Biomedical Research รวมถึง Information Technology (เกี่ยวกับสาระสนเทศ??) ทั้งกลายทั้งปวงก็เนื่องมาจาก ธีม to win the future ของเค้า โดยบอกว่า "Let's fix what need fixing and let's move forward." หมายถึงว่าอเมริกาต้องแก้ไขสิ่งที่สนควรแก้ไข และเดินไปข้างหน้าได้แล้ว มิฉะนั้นขั้วอำนาจอาจเปลี่ยนที่ และ ประเทศมหาอำนาจของโลกก็อาจจะไม่ใช่ประเทศอเมริกาอีกต่อไป...




รายละเอียดกรุณาไปฟังต่อในคลิปนะคะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ส่งอีเมล์ไปถามได้ที่ : BAS.tutor@gmail.com หรือใครที่ยังสนใจซื้อชีทอยู่ก็สามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0870134999 - อ้อม :-)

ปล. ช่วงนี้พี่จะอัพบล๊อกถี่ยิบนิดนึงนะคะ ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมลองย้อนกลับไปดูโพสเก่าๆก่อนได้ค่ะ

อันนี้พูดถึงเรื่องความสำคัญของการศึกษา และ พลังงานสะอาด



Gay Marriage คือการแต่งงานของเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ชาย กับ ชาย หรือ หญิง กับ หญิืง - ถือเป็นเรื่องที่ฮอตมากในอเมริืกา เนื่องจากว่าอเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศแห่งเสรีภาพ ซึ่งทุกๆคนไม่สมควรที่จะถูกกีดกันจากเรื่องต่างๆ เช่นคนดำไม่ควรที่จะโดนกีดกัน หรือ เหยียดเชื้อชาติโดยคนขาว และก็เช่นกันกับคนชาติอื่นๆ แต่เรื่องการแต่งงานของเพศเดียวกันก็ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะถึงแม้ว่าคนที่เป็นแกย์ในต่างประเทศจะไม่โดนมองในแง่ร้ายเท่ากับในประเทศไทยเรา หรือว่าประเทศอนุรักษ์นิยมประเทศอื่นๆ แต่ก็ไม่้ได้มีการยอมรับอย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา ซึ่งมีการอนุญาตให้คนเพศเดียวกันสามาถรแต่งงานกันได้ในบางรัฐ (แคลิฟอร์เนี่ย)เท่านั้น ดังนั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้มีการเรียกร้อง และการเดินขบวนต่างๆเพื่อต้องให้กฎหมายสหรัฐฯอนุญาตให้การแต่งงานในเพศเดียวกันนั้นเป็นเรื่องปกติทั่วไป ซึ่งก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ

วีดีโอนี้เป็นวีดีโอจากการโต้วาทีกันระหว่าง Joe Biden กับ Sarah Palin ในหัวข้อ Gay Marriage โดยข้อสรุปคือทั้งสองฝ่ายอยากให้คู่ Gay นั้นมีสิทธิในเรื่องการทำสัญญาคู่กัน และ การไปมาหาสู่ (ประมาณนั้น) แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังยืนยันว่าไม่้สนับสนุนการแต่งงานในเพศเดียวกัน สังเกตุได้ว่าเวลาพูดทั้งสองฝ่ายจะมีการสงวนท่าที ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง โดยการพูดจาวนไปวนมา งงๆ ทำให้เราไม่แน่ใจว่าสรุปจะพูดอะไรกันแน่ ขอสรุปละกันว่าถ้าเกิดเจอคำถามแบบนี้ก็ตอบไปแบบนักการเมือง เพราะเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลล้วน แต่หากสนับสนุนให้เน้นเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมกัน ถ้าไม่สนับสนุนก็ให้เน้นเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีไปละกันค่ะ




ส่วนอันนี้เป็นเรื่อง Healthcare Reform หลักๆคือเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบสุขภาพของคนอเมริกันทั้งประเทศ โดยรวมๆคือโอบาม่าต้องการให้ประกันสุขภาพกับพลเมืองอเมริกันทุกคน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้เกิดข้อโต้แย้ง และคนที่สนับสนุนมากมาย เพราะทุกวันนี้คนอเมริกันส่วนใหญ่ ไม่มีประกันสุขภาพที่ดีเพียงพอ บางคนก็ไม่มีเลย เนื่องมากจากปัญหาสุขภาพ หรือ โรคประจำตัวที่มีมาก่อนเข้าทำงาน (pre-existing conditions) และเค้าต้องก็ต้องการให้คนอเมริกันทุกคนมีสิทธิในการรักษาพยาบาลเท่าเทียมกัน แต่ปัญหาก็มีอยู่ว่าการให้ประกันสุขภาพกับชาวอเมริกันทุกคนเป็นเรื่องใหญ่ และต้องใช้งบประมาณสูงด้วย อีกเรื่องก็คือถ้าคนที่มีประกันสุขภาพที่ดีอยู่แล้วเค้าก็กลัวว่าจะต้องมารักษาพยาบาลกับคนอื่นด้วย (โอบาม่าบอกว่าใครมีที่ดีกว่ารัฐจะมอบให้ก็จะไม่ยุ่ง ประมาณนั้น) ลองดูวีดีโอไล่มานะคะ


Pros and Cons of the Healthcare Reform Bill



Republican Strikes Back


เอาไปดูกันนะคะ อันนี้ก็เป็นเหตุผลของโอบาม่าที่ต้องการให้มี Immigration Reform - คนอเมริกันที่ไม่ได้มีญาติ หรือ คนรู้จักที่เป็น Illegal Immigrants ก็จะมีมุมมองอีกแบบว่า โอบาม่าต้องการผ่านร่างกฎหมายนี้เพื่อขยายฐานเสียงของเค้า (ซึ่งก็น่าจะมีส่วนจริง) ทั้งยังเป็นการละเว้นโทษให้แก่ผู้คนที่ไม่เคารพกฎหมายของประเทศอเมริกา แต่อีกด้านนึงก็คือหากมีการผ่านกฎหมายนี้จริง ผู้ที่อยู่อาศัย และทำงานอย่างผิดกฎหมายในอเมริกาจะได้รับการละเว้นโทษ ทั้งยังได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองของอเมริกา ซึ่งก็เป็นการหาเงินเข้าประเทศอีกทางหนึ่งเพราะว่าผู้ที่เข้ามาอยู่อย่างผิดกฎหมายจะไม่ต้องเสียภาษี (ถือเป็นการเอาเปรียบพลเมืองอเมริกันเป็นอย่างมาก) แต่หากพวกเค้าได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองแล้ว พวกเค้าก็ต้องเสีบภาษีรายได้ให้แก่รัฐบาลเหมือนพลเมืองอเมริกันทั่วไปค่ะ
Q: คิดราคายังไง?
A: เดี่ยว 600 บาท/ชม. และ กลุ่ม 3 คน 250 บาท/ชม.

Q: สถานที่ที่ใช้ในการติวคือที่ไหน?
A: ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) ค่ะทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของน้องๆเองค่ะ

Q: ต้องติวกี่ชั่วโมง?
A: แนะนาให้ติว ครั้งละ 2 ชม. 3 ครั้งค่ะ
(น้องคนไหนสะดวกติว 3 วันติดเลยก็ได้ หรือจะติวด่วนวันเดียวจบเลยก็ได้ค่ะ แต่ต้องนัดเวลากับพี่ๆก่อนนะคะ)

Q: สอนเกี่ยวกับอะไรบ้า? และใช้อะไรสอน?
A: จะสอนตั้งแต่ประวัติศาสตร์โดยย่อของ UK และ USA รวมถึงสอนการเขียน Essay และ เทคนิคการสอบสัมภาษณ์ค่ะ
ชีทที่พี่ใช้เป็นชีทที่พวกพี่ๆช่วยกันรวบรวมขึ้นมา โดยมีเนื้อหาตั้งแต่อดีต จน ถึงปัจจุบันของประเทศอังกฤษ และ อเมริกา เพื่อให้น้องๆได้มีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐาน เกี่ยวกับสองประเทศนี้ค่ะ ทั้งยังมีการสอนเขียน Essay เพื่อการสอบเข้า โดยมีหัวข้อทั้งที่พี่ๆรวบรวมขึ้นมาเอง และของปีที่ผ่านๆมา รวมถึงเทคนิคต่างๆที่สามารถนาไปใช้ในการสอบสัมภาษณ์เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่สัมภาษณ์เราด้วยค่ะ

Q: ใครคือผู้สอน?
A: พี่ๆนักศึกษารุ่นปัจจุบันของ BAS ค่ะ ฉะนั้นน้องๆจึงมั่นใจได้เลยว่าพวกพี่ๆเคยผ่านสิ่งที่น้องๆจะเจอมาก่อนแล้ว และสามารถให้คาที่เป็นประโยชน์แก่น้องๆได้จริงๆ